สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในแปซิฟิกา แคลิฟอร์เนีย

2024 ผู้เขียน: Cyrus Reynolds | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2024-02-09 09:47

ขับรถไปทางใต้ของซานฟรานซิสโกเพียง 20 นาที และอยู่ห่างจาก Half Moon Bay ไปทางเหนือเพียง 20 นาที แต่เมืองชายฝั่งแปซิฟิกามีจังหวะและบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป เพลิดเพลินกับทิวทัศน์แบบพาโนรามาและวิวพระอาทิตย์ตกดินอันตระการตาที่สถานที่พักผ่อนริมทะเลแห่งนี้ ไม่ต้องพูดถึงการโต้คลื่นมากมาย

เดินป่า

เมื่อการจราจรติดขัดบนสะพาน Golden Gate ในวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่าลืมว่า Pacifica เช่น Marin มีเส้นทางเดินป่ามากมาย The Devil's Slide Trail เปลี่ยนพื้นที่ 1.3 ไมล์ของสิ่งที่เคยเป็นทางหลวงหมายเลข 1 ให้เป็นเส้นทางเอนกประสงค์ที่เปิดกว้างสำหรับนักปั่นจักรยานและนักขี่ม้า พร้อมด้วยนักปีนเขา และอีกเส้นทางหนึ่งที่มีทิวทัศน์ชายฝั่งทะเลที่สวยงามตระการตา มีแม้กระทั่งห้องน้ำและป้ายบอกความหมายตลอดทาง สวนสาธารณะซานเปโดรแวลลีย์ 1, 052 เอเคอร์ของ Pacifica กระจายตัวระหว่างเทือกเขาซานตาครูซและเชิงเขาแปซิฟิกา เป็นที่ตั้งของเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง ในขณะที่เส้นทาง Montara Mountain Trail ระยะทาง 6.4 ไมล์เป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุด เส้นทาง Hazelnut Trail ที่มีระยะทางประมาณ 4 ไมล์ หรือราวๆ นั้นมีการสลับสับเปลี่ยนมากมาย รวมทั้งน้ำตก Brooks Falls ที่สูง 175 ฟุตของอุทยาน ซึ่งสวยงามเป็นอย่างยิ่งหลังจากมีฝนตกชุก ทางบกอีกเล็กน้อยคือเส้นทาง Sweeney Ridge Trail ซึ่งเป็นระยะทาง 7.7 ไมล์ระหว่าง Pacifica และ San Bruno โดยมีการปีนเขาที่เพียงพอและทัศนียภาพชายฝั่งทะเลที่น่าประทับใจมากมาย อย่าลืมเอาขนมไปด้วย!

ตีคลื่น

Pacifica เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการโต้คลื่น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร หาดลินดา มาร์ สเตท (Linda Mar State Beach) ที่มีรูปทรงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวยาวเป็นไมล์หรือยาวเป็นไมล์ (หรือที่รู้จักในชื่อ Pacifica State Beach) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น ในขณะที่ทั้งหาดร็อคอะเวย์และหาดชาร์ปพาร์คจะดึงดูดนักเล่นเซิร์ฟระดับกลางและผู้ที่ก้าวล้ำหน้ากว่า แปซิฟิกายังเป็นที่ตั้งของ University of Surfing ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนเล่นเซิร์ฟที่จัดทั้งบทเรียนส่วนตัวและบทเรียนกลุ่ม ตลอดจนค่ายท่องเว็บแบบรวมทุกอย่างตลอดสัปดาห์ตลอดฤดูร้อน สำหรับผู้ที่หวังจะเดินทางเป็นครั้งแรก ชั้นเรียน Surf 101 ของมหาวิทยาลัยคือทางไปและรวมถึงชุดดำน้ำ รองเท้าบู๊ท และกระดานโต้คลื่นนุ่มขนาดใหญ่ พร้อมด้วยคำแนะนำโดยละเอียดและประสบการณ์ตรงอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง

กัดกินริมทะเล

บนหน้าผาบนเนินเขาที่มองออกไปเห็นหาด Rockaway คือร้าน Nick's Seafood Restaurant ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารมาตั้งแต่ปี 1927 (และเป็นทางเลือกในอุดมคติของ Fisherman's Wharf ในซานฟรานซิสโก) ด้วยทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก ดนตรีสดและการเต้นรำ Nick's เป็นร้านค้าครบวงจรสำหรับการเที่ยวกลางคืนในแปซิฟิกา มีบาร์รูปเกือกม้าสำหรับดื่มด่ำและการรับประทานอาหารริมทะเลที่มีอาหารอย่างกุ้งล็อบสเตอร์ราวิโอลีเคลือบครีมซอสบรั่นดี หอยนึ่งหรือหอยแมลงภู่ในน้ำซุปไวน์ขาว และแซนวิชปูย่างอันโด่งดังของนิค ปู Dungeness แสนอร่อยที่เสิร์ฟในบ้าน - เวเดอเมเยอร์ย่างซาวโดว์ ราดด้วยมะเขือเทศ ขอชีสแบบเปิดหน้าเพื่อรางวัลสูงสุด

ฉลองเทศกาลหมอก

ทุกเดือนกันยายนในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ผู้อยู่อาศัย เพื่อน และแฟน ๆ ของ Pacifica มารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองชุมชนท้องถิ่นด้วยการแสดงดนตรีสด การแข่งขันที่สนุกสนานสำหรับครอบครัว แผงขายงานศิลปะและงานฝีมือ และขบวนพาเหรดประจำปี แต่ในขณะที่ Karl the Fog อาจดูเหมือนจอดอยู่ตลอดกาลที่ Ocean Beach ของซานฟรานซิสโก แต่เส้นสายหมอกของเขาก็ลงมาทางนี้เช่นกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ Pacific Coast Fog Fest เป็นงานช่วงสุดสัปดาห์ที่เข้าร่วมได้ฟรี แต่นำเงินสดมาสำหรับของทานเล่น เช่น อาร์ติโชกนึ่ง มีดผักโขมมันฝรั่ง และเค้กกรวยที่เสิร์ฟในสไตล์ทางเดินริมทะเล

ตัวอย่างเบียร์ West Coast

เปิดในปี 2014 ที่ศูนย์การค้า Pedro Point บนทางหลวงหมายเลข 1 Devil's Slide Taproom เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการจิบเบียร์หายาก เช่น Russian River Blind Pig IPA (ผลิตขึ้นในซานตาโรซา) Anchor Mango Wheat และ New Bohemian Devil's Advocate - Belgian Triple ที่น่ารับประทานส่งตรงจากซานตาครูซ Taproom ยังนำเสนอเมนูแซนวิช เช่น เฟรนช์ดิป หมูฉีก และกุ้งโปเตโต้ขนาดจัมโบ้ ตลอดจนของว่างที่มีตั้งแต่ขนมปังเพรทเซลสไตล์บาวาเรียไปจนถึงมันฝรั่งทอดราดด้วยซอสพาร์เมซาน พวกเขายังเป็นเจ้าภาพรับช่วงการแตะเป็นครั้งคราว

เจาะลึกศิลปะ

Pacifica Center for the Arts เป็นที่ตั้งของชุมชนศิลปะ Pacifica หลายแห่ง และเป็นที่ที่คุณสามารถชมการแสดงได้ทุกอย่างตั้งแต่เพลงบลูส์ไปจนถึงการแสดงเต้นรำและงานศิลปะของศิลปิน West Coast รวมถึงศิลปินจาก Pacifica และ ทั่วบริเวณอ่าวใหญ่ ศูนย์เป็นเจ้าภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการในสิ่งต่างๆ เช่น Live Figure Drawing for Adults และเป็นเจ้าภาพการแสดงในท้องถิ่นเช่น Fingerpuppets ของวงดนตรีร็อค Pacifica จำนวน 6 ชิ้นที่เล่นเพลงต้นฉบับและเพลงร็อคแอนด์โรลที่มีชื่อดังเช่น Johnny Cash, Sublime และ Amy Winehouse สำหรับโรงละครที่มีส่วนร่วม อย่าพลาดผู้เล่น Pacifica Spindrift ที่มีเพลง "A Streetcar Named Desire" และ "The 25th Annual Putnam County Spelling Bee"

เริ่มทัวร์กลับบ้าน

บางทีทรัพย์สินที่แปลกที่สุดของ Pacifica หรือบ้านที่รู้จักกันในชื่อ Sam's Castle มีประวัติที่น่าสนใจ Henry Harrison McCloskey (ปู่ของอดีตผู้แทนสหรัฐจากแคลิฟอร์เนีย Pete McCloskey) สร้างคฤหาสน์คอนกรีตสีเทาของเขาในปี 1908 เพื่อปกป้องตัวเองหากบริเวณ Bay Area ต้องทนต่อแผ่นดินไหวร้ายแรงอีกครั้ง เช่น ภัยพิบัติในซานฟรานซิสโกในปี 1906 ตั้งแต่นั้นมา โครงสร้างสี่ชั้นก็เป็นทุกอย่างตั้งแต่ซ่องโสเภณีไปจนถึงด่านหน้าหน่วยยามฝั่ง หลังจากนั่งว่างๆ อยู่อย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ ชายผู้แปลกประหลาดซึ่งเป็นที่รู้จักจากงานสังสรรค์ฟุ่มเฟือยของเขาได้ซื้อทรัพย์สินดังกล่าว ตกแต่งด้วยงานศิลปะและของสะสมที่ไร้ค่า รวมทั้งชุดเกราะและบัลลังก์ เมื่อ Mazza เสียชีวิตในปี 2545 เขาได้ทิ้งข้อกำหนดไว้เพื่อสร้างทรัพย์สินเป็นสถานที่สำคัญของ Pacifica หลังจากการปรับปรุงใหม่ Sam's Castle เปิดให้ทัวร์สาธารณะในปี 2014 มีบริการทัวร์รายเดือนทั้งแบบปกติและแบบ 'High Tea' คุณสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ Brown Paper Tickets

สำรวจโลกของกล้วยไม้

ประกอบด้วยชุดเรือนกระจกที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20, Shelldance OrchidGardens เป็นสถานที่บริเวณอ่าวสำหรับค้นหากล้วยไม้ลูกผสมระดับโลก อย่างไรก็ตาม เรือนเพาะชำที่เต็มไปด้วยดอกไม้ยังมีบีโกเนีย บรอมมีเลียด เจอเนเรียด และอื่นๆ ให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของงานศิลปะต่างๆ ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หินและไม้ไผ่ ร้านขายของกระจุกกระจิกในสถานรับเลี้ยงเด็กขายทุกอย่างตั้งแต่ธูปไปจนถึงแยมโฮมเมด และ Shelldance ยังจัดกิจกรรมเป็นครั้งคราว เช่น การทำสมาธิแบบมีไกด์ เป็นสถานที่ที่ผ่อนคลายในการเยี่ยมชมแม้ว่าคุณจะไม่ได้ต้องการซื้ออะไรก็ตาม แต่ต้องการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและใช้เวลาเพลิดเพลินกับพืชพันธุ์หายากและดอกไม้ที่สวยงาม